เปิดตัวลำโพงมัลติรูม DEFUNC HOME ลำโพงมัลติรูมอัจฉริยะ

อาร์ทีบีฯ จับมือ “DEFUNC” ส่งลำโพงมัลติรูม DEFUNC HOME ลำโพงมัลติรูมอัจฉริยะให้คนไทยเป็นเจ้าของ

อาร์ทีบีฯ เปิดกลยุทธ์ธุรกิจปี 2566 ตั้งเป้าโต 20% เดินหน้าผนึก Studio7 เสริมแกร่ง เพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ จับมือแบรนด์จากสวีเดน “DEFUNC” ส่งลำโพงมัลติรูม DEFUNC HOME โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบมินิมอลและฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน ทั้งในแง่การฟังเพลงและการตกแต่งบ้าน

บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด ผู้นำเทรนด์ดิจิทัลออดิโอ จับมือกับ สตูดิโอเซเว่น ภายใต้ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของไทย ส่งลำโพงมัลติรูม DEFUNC HOME จากแบรนด์ “DEFUNC” แบรนด์เครื่องเสียงสัญชาติสวีเดน เพื่อขยายตลาดและปั้นยอดขาย

โดยชูจุดเด่นลำโพงระบบ Wi-Fi ที่มีดีไซน์มินิมอล สามารถติดตั้งได้หลากหลายรูปแบบ รวมถึงสามารถปรับแต่งให้เข้ากับบ้านในรูปแบบต่างๆได้เสมือนหนึ่งเป็นของตกแต่งบ้าน พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่อย่างแท้จริง โดย อาร์ทีบีฯ เปิดแผนขับเคลื่อนธุรกิจปี 2566 ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20% หลังผลงานปี 2565 ทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท หรือเติบโต 20% พร้อมปั้นฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ รับเทรนด์ตลาดดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่กำลังขยายตัว

ดร.บรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจปี 2566 ว่า อาร์ทีบีฯ ได้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปี 2565 ที่มีรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตในปีที่ผ่านมาเกิดจากการที่เราได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกเพิ่มขึ้น ทำให้อาร์ทีบีฯ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้หลากหลายขึ้น อาทิ กล้องแอคชั่นแคม อุปกรณ์เกมมิ่ง สินค้ากลุ่ม Work From Home และการทำโซลูชั่นของห้องประชุมแบบ Video Conferencing นอกจากนั้นการเติบโตของบริษัทฯ ยังเติบโตไปพร้อมๆกับพาร์ทเนอร์เจ้าหลักอย่าง บริษัท คอมเซเว่น ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์

ข่าวเทคโนโลยี-IT

สำหรับกลยุทธ์การตลาดในปีนี้ อาร์ทีบีฯ มุ่งสร้างการเติบโตจากการเพิ่มยอดขายจากแบรนด์เดิมด้วยการใช้กลยุทธ์ในการเจาะตลาดที่หลากหลายขึ้น และเพิ่มแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคให้มากขึ้น และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยการนำแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดจะคำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภค รวมไปถึงเป็นแบรนด์ที่ตลาดยอมรับ ซึ่งล่าสุดได้ผนึกกำลังกับแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำจากประเทศสวีเดน “DEFUNC (ดีฟังก์)” และประเดิมด้วยการส่งลำโพงรุ่น “DEFUNC HOME” เข้ามาทำตลาดเป็นผลิตภัณฑ์แรก

นางสาววิมลมาลย์ วัฒนสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า “DEFUNC เป็นแบรนด์เครื่องเสียงสัญชาติสวีเดนที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2015 โดยผสานคำว่า Design และ Function เข้าไว้ด้วยกันจนกลายเป็นชื่อแบรนด์ ด้วยจุดเด่นด้านการออกแบบที่เน้นความเรียบง่ายและทันสมัยซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของงานดีไซน์ในแบบฉบับของสแกนดิเนเวีย ในขณะเดียวกันก็ไม่ละเลยความต้องการของผู้ใช้งานในด้านของคุณภาพเสียง ซึ่งได้รับการออกแบบโดยวิศวกรด้านเสียงระดับท็อปของสวีเดน

สำหรับ DEFUNC HOME เป็นลำโพงมัลติรูมอัจฉริยะที่เชื่อมต่อได้ทั้ง Wi-Fi และ Bluetooth ออกแบบมาให้เป็นได้ทั้งเครื่องเสียงและของแต่งบ้านในเวลาเดียวกัน ควบคุมการใช้งานได้อย่างสะดวกสบายด้วย Alexa และ AirPlay 2 ที่มีมาให้ในตัว โดยคุณสามารถควบคุมลำโพงได้พร้อมกันสูงสุดถึง 32 ตัว ผ่านแอปพลิเคชั่น DEFUNC HOME รองรับสตรีมมิ่งแอปชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Apple Music, Spotify, Tidal และอื่นๆ

การถ่ายทอดเสียงของลำโพง DEFUNC HOME ทุกประเภทมีความคมชัด ตั้งแต่เสียงเบสแน่นๆ เสียงร้องแบบพริ้วๆ ไปจนถึงพอดคาสต์ พร้อมการดีไซน์ที่สวยงามมีสไตล์ คุณสามารถจัดวางลำโพง DEFUNC HOME ได้ทุกพื้นที่ในบ้าน ไม่ว่าจะตั้งโต๊ะ ตั้งพื้น หรือแขวนบนผนัง นอกจากนี้หน้ากากคลุมลำโพงยังสามารถถอดเปลี่ยนให้เป็นรูปและสีต่างๆ ได้ตามสไตล์ที่คุณต้องการ ทำให้ลำโพงสามารถกลมกลืนได้กับทุกสภาพแวดล้อม หรือถ้าอยากสร้างความโดดเด่นก็สามารถทำลวดลายให้สวยงามได้ รวมถึงสามารถพิมพ์โลโก้หรือข้อความในการโปรโมทสินค้าสำหรับร้านค้าต่างๆได้ด้วย

ด้านนางสาวณัฐนันท์ กีรติกรยศนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “สำหรับร้าน Studio7 นั้น เรามุ่งเน้นที่จะคัดสรรสินค้าระดับคุณภาพที่มีทั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัย และตอบสนองผู้บริโภคระดับไฮเอนด์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งทางบริษัทเล็งเห็นว่า DEFUNC HOME เป็นลำโพงอัจฉริยะสำหรับใช้ในบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ และกำลังเริ่มเป็นที่รู้จักในเมืองไทย ทางเราจึงอยากจะผลักดันสินค้าในหมวดนี้ ซึ่งเรามั่นใจว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดแน่นอน”

พร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจากนักแสดงหนุ่ม ก็อต – จิรายุ ตันตระกูล ในการออกแบบหน้ากากคลุมลำโพงด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก รวมถึงร่วมแชร์ประสบการณ์การใช้ลำโพง DEFUNC HOME ในชีวิตประจำวัน เปิดเผยว่า “นอกจากจะเสียงดีแล้ว ฟังก์ชั่นยังเหมาะกับการใช้งานในบ้านด้วย ผมชอบที่เวลาฟังเพลงแล้วไม่ต้องซิงค์กับโทรศัพท์ ทำให้เวลาที่เราฟังเพลงในขณะที่นั่งวาดรูปหรือพักผ่อน เสียงเตือนต่างๆจะไม่เข้ามาในลำโพงเหมือนเวลาเราต่อกับลำโพงบลูทูธ นอกจากนั้นยังได้รับการออกแบบให้ใช้แต่งบ้านได้ด้วย ลำโพงมันมีความมินิมอล เหมือนฝังอยู่ในตัวบ้านได้อย่างเงียบๆ แต่ก็ยังมีออปชั่นที่ตัวคัฟเวอร์ลำโพงสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามอารมณ์ของเราได้เป็นอย่างดี”

นอกจากนี้ อาร์ทีบีฯ ได้ร่วมกับ สถาบันการศึกษาชั้นนำ จัดกิจกรรมการประกวดออกแบบหน้ากากคลุมลำโพง DEFUNC HOME ภายใต้คอนเซ็ปท์ “Style Your Space with DEFUNC HOME” พร้อมชิงเงินสดและของรางวัลมูลค่ารวมกว่า 105,050 บาท ทั้งนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนเยาวชนที่รักการออกแบบและการสร้างจุดเด่นของสินค้าให้มีความแตกต่าง

แนะนำข่าวเทคโนโลยี อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : ถึงกับช็อก ! เทรนเนอร์มวยไทยใส่ Apple Watch

ถึงกับช็อก ! เทรนเนอร์มวยไทยใส่ Apple Watch

โดย เจมี่ อัลเลน (Jamie Alleyne) ครูฝึกมวยไทย เล่าว่าเช้าวันที่เกิดเหตุ จู่ ๆ ก็มีตำรวจเข้ามาสอบถามเหตุการณ์ที่โรงยิม

 

เทคโนโลยี

 

เนื่องจากได้รับสายโทรแจ้งเหตุการณ์ยิงกันเกิดขึ้น และขณะที่กำลังยืนงงกันอยู่ อีกไม่กี่อึดใจ ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 15 นาย พร้อมรถพยาบาลอีกหลายคันเข้ามาสมทบ โดยเจ้าหน้าที่คนหนึ่งถามหาตัวเจมี่ และบอกว่าเขาเป็นคนโทรแจ้งเหตุ ซึ่งเขายืนยันว่าไม่ใช่ เพราะตอนนั้นเขาไม่มีโทรศัพท์ติดตัว

อย่างไรก็ตามพอมาเช็กมือถือ เจมี่ก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่ามีประวัติการโทรออกจริง ๆ พอสืบสาวราวเรื่องถึงรู้ว่า ตอนซ้อมมวยกันอยู่ เจมี่ได้สวมนาฬิกา Apple Watch ไว้ พอต่อยไปต่อยมา แรงกดก็ไปโดนเอาปุ่มข้าง ๆ ซึ่งถ้ากดค้างนานพอ ก็จะเปิดใช้งานฟีเชอร์ Siri ซึ่งเป็นผู้ช่วยคำสั่งเสียง

ระหว่างนั้นเจมี่ ที่ไม่ได้รู้ตัวว่า Siri ยังรอฟังคำสั่งเสียงอยู่ ก็ตะโกนนับเลขเพื่อบอกจังหวะต่อยให้นักเรียนว่า 1-1-2 (วัน-วัน-ทู) ซ้ำไปซ้ำมา ซึ่งดันไปตรงกับหมายเลขสำรองของเบอร์โทรแจ้งเหตุฉุกเฉินพอดี

ถึงกับช็อก ! เทรนเนอร์มวยไทยใส่ Apple Watch เผลอกดเรียกตำรวจมาหาถึงที่ ภาพจาก ptjmuaythai
Siri ก็เลยโทรเบอร์ฉุกเฉินให้ พอทางฝั่งเจ้าหน้าที่รับสาย ก็ได้ยินแค่เสียงต่อยตุ้บ ๆ ตั้บ ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่า ฟังดูคล้ายเสียงปืน พร้อมกับเสียงของเจมี่ ที่ตะโกนว่า ‘Good shot’ และ ‘Nice shot’ ที่ฟังแล้วเหมือนบอกว่า ‘ยิงได้ดี’ และ ‘ยิงได้สวย’ ทั้งที่จริง ๆ เขาไม่ได้หมายถึงยิงปืนแต่อย่างใด แต่กำลังชมฝีมือการเตะ การต่อย ของนักเรียนมวยไทยอยู่

เรื่องราวนี้จากที่ตึงเครียดกันอยู่ ก็เลยกลายเป็นเรื่องขำขันกันไป โดยเจมี่ก็ได้ขอโทษขอโพยเจ้าหน้าที่ไปตามระเบียบ พร้อมชื่นชมว่าเจ้าหน้าที่มากันเร็วมาก ๆ ส่วนทางเจ้าหน้าที่เองก็ไม่ถือสาอะไร สมกับเป็นมืออาชีพกันจริง ๆ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม คลิ๊กเลย >> ‘YouTube’ เปิดฟีเจอร์ใหม่หนุนครีเอเตอร์ไทย แบ่งรายได้ให้ 70%

‘YouTube’ เปิดฟีเจอร์ใหม่หนุนครีเอเตอร์ไทย แบ่งรายได้ให้ 70%

‘YouTube’ เปิดฟีเจอร์ใหม่หนุนครีเอเตอร์ไทย แบ่งรายได้ให้ 70%

“YouTube” ประกาศเปิดตัวบริการ Super Chat, Super Stickers และ Super Thanks อย่างเป็นทางการในไทย หวังเพิ่มช่องทางใหม่ให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้ พร้อมสานความสัมพันธ์กับแฟน ใจป้ำแบ่งสัดส่วนรายได้ครีเอเตอร์ 70% YouTube 30% งานวิจัยเผย YouTube แพลตฟอร์มอันดับ 1 ที่คนไทยคิดถึง

ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดของช่องทางการรับชมดิจิทัลคอนเทนต์ “YouTube” ยังคงมีจุดยืนที่แข็งแรงและเป็นหนึ่งในช่องทางที่น่าสนใจสำหรับครีเอเตอร์ที่ต้องการสร้างชื่อและสร้างรายได้ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ไม่ต้องการยึดติดกับวิถีแบบเดิมๆ หรือมีรายได้จากการเป็นเพียงมนุษย์เงินเดือน…

มุกพิม อนันตชัย หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรธุรกิจ YouTube ประเทศไทย และเวียดนาม กล่าวว่า YouTube ประเทศไทยเปิดตัวบริการ Super Chat, Super Stickers และ Super Thanks ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

เทคโนโลยี

ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครีเอเตอร์และแฟนๆ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมทั้งเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ให้ครีเอเตอร์ โดยครีเอเตอร์ที่เข้าร่วมโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube Partner Program : YPP สามารถเริ่มใช้งานได้เลยทันทีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

“เรามีมุมมองว่า ทุกคนควรมีโอกาสที่จะเปลี่ยนความหลงใหลของตนเองให้กลายเป็นธุรกิจ จึงได้เริ่มต้นผลักดันบริการและโปรแกรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนพาร์ทเนอร์ รวมถึงนำเสนอช่องทางที่หลากหลายสำหรับครีเอเตอร์ในการสร้างรายได้ที่นอกเหนือจากโฆษณา”

สำหรับ โมเดลส่วนแบ่งรายได้ของ Super Chat, Super Stickers และ Super Thanks สัดส่วนจะให้กับครีเอเตอร์ 70% และแพลตฟอร์ม 30%

อย่างไรก็ดี ช่วง 3 ปีที่ผ่านมายูทูบ ได้จ่ายค่าตอบแทนให้กับครีเอเตอร์ ศิลปิน และบริษัทสื่อทั่วโลกรวมแล้วกว่า 1.7 ล้านล้านบาท (5 หมื่นล้านดอลลาร์) ส่วนของ YouTube เองแหล่งที่มาของรายได้ จะมาจากการโฆษณา YouTube พรีเมียม และจากแฟนๆ ซึ่งรวมถึงการเปิดตัวดังกล่าว